ข้อควรระวังหลังทำทรีตเมนต์
✔ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้เริ่มล้างหน้า อาบน้ำ
และแต่งหน้าได้ตั้งแต่วันถัดไปหลังทำหัตถการ
✔ ภายใน 7 วันหลังทำทรีตเมนต์ ควรงดการผลัดเซลล์ผิว
ซาวน่า อบตัว แช่น้ำร้อน ว่ายน้ำ ออกกำลังกายหนัก
รวมถึงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
✔ แนะนำให้เริ่มใช้ครีมกันแดดตั้งแต่วันถัดไปหลังทำหัตถการ
✔ หลังการฉีดยา อาจมีอาการบวม รอยช้ำ
หรือผิวนูนเกิดขึ้นได้ ซึ่งมักจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 3–7 วัน
✔ หลีกเลี่ยงการถูแรงหรือกระตุ้นบริเวณที่ทำหัตถการ
(กรุณาหลีกเลี่ยงการนวดแรงหรือนวดกดจุดเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน)
01.โบท็อกซ์ลดริ้วรอย/สกินโบท็อกซ์/โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า
✔ ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ 1
สัปดาห์ และเห็นผลสูงสุดในช่วง 4–8 สัปดาห์หลังทำ
แนะนำให้รับการฉีดซ้ำทุก 3–4 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
02. โบท็อกซ์กราม / โบท็อกซ์ร่างกาย / โบท็อกซ์ลดเหงื่อ
✔ หากมีกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อบ่อย
อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใกล้เคียงพัฒนาแทน
ส่งผลต่อประสิทธิภาพของโบท็อกซ์
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกแรงหรือออกกำลังกายหนักหลังฉีด
(หลังฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม แนะนำให้งดอาหารแข็งหรืออาหารที่ต้องเคี้ยวแรง
เพื่อลดการใช้งานกล้ามเนื้อกราม)
✔ ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ 2
สัปดาห์ และเห็นผลสูงสุดในช่วง 4–8 สัปดาห์หลังทำ
แนะนำให้รับการฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
03. โบท็อกซ์กราม
✔ หลังฉีดอาจมีอาการตึง เจ็บเล็กน้อย
หรือปวดหน่วงบริเวณที่ฉีด ซึ่งโดยปกติจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 3 วัน
✔ ในบางกรณีอาจเกิดอาการปูดคล้ายแก้มอมลูกอม (candy ball)
ได้ ซึ่งมักเกิดจากปริมาณโบท็อกซ์ไม่เพียงพอ
แนะนำให้กลับมารับการฉีดเพิ่มเติม
04. โบท็อกซ์น่อง
✔ ในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีด แนะนำให้งดกิจกรรมที่อาจทำให้เสียการทรงตัว
เช่น ใส่รองเท้าส้นสูง ปีนเขา หรือขึ้น-ลงบันไดบ่อย
เพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
05. โบท็อกซ์บ่า
✔ ภายใน 2 สัปดาห์หลังฉีด แนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายช่วงไหล่อย่างหนัก
การยกของที่มีน้ำหนักมาก และควรหลีกเลี่ยงการสะพายกระเป๋าข้างเดียว
เพื่อไม่ให้เกิดการใช้งานกล้ามเนื้อไม่สมดุล
06. ลดเหงื่อ ฝ่ามือ
✔ อาจมีอาการแรงบีบมือลดลงเล็กน้อยหลังทำ
ซึ่งเป็นอาการชั่วคราวและจะกลับสู่ภาวะปกติได้เอง ไม่ต้องกังวล
✔ หากมีอาการคัน รอยแดง หรืออาการอักเสบที่รุนแรงกว่าปกติ
แนะนำให้ติดต่อคลินิกทันทีเพื่อตรวจสอบและดูแลอย่างเหมาะสม
01. ข้อควรระวังหลังทำทรีตเมนต์
✔ แนะนำให้ล้างหน้า อาบน้ำ และแต่งหน้า
ตั้งแต่วันถัดไปหลังทำหัตถการจะดีที่สุด
✔ ภายใน 1 สัปดาห์ ควรงดการผลัดเซลล์ผิว ซาวน่า อบตัว
แช่น้ำร้อน ว่ายน้ำ ออกกำลังกายหนัก การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
✔ แนะนำให้เริ่มใช้ครีมกันแดดตั้งแต่วันถัดไปหลังทำ
เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด
✔ อาจมีอาการบวม เจ็บ หรือเป็นตุ่มนูนเล็กน้อยภายใน 2–3
วัน และอาการอาจคงอยู่ได้ถึง 1–2 สัปดาห์
✔ หลังล้างหน้าและบำรุงผิวตามปกติ แนะนำให้ทาครีมลดรอยช้ำ
เช้า-เย็น อย่างสม่ำเสมอในช่วง 2–3 วันแรก
✔ แนะนำให้เว้นระยะการทำสกินบูสเตอร์แต่ละครั้งประมาณ 1–2
เดือน เพื่อให้ผิวฟื้นฟูและเห็นผลชัดเจน
02. ฉีดสลายไขมัน - ใบหน้า
✔ อาการบวม แดง มักจะหายได้เองภายใน 2–3 ชั่วโมง
หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
(ในกรณีฉีด วีโอเลต อาจใช้เวลา 3–4 สัปดาห์)
✔ หลังทำหัตถการ อาจมีอาการสั่น ใจสั่น หรือเวียนศีรษะชั่วคราว
หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน กรุณาติดต่อคลินิก
✔ อาจมีเลือดออกผิดปกติได้ แต่ปกติมักจะเป็นเพียงชั่วคราว
แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการครั้งถัดไป
✔ เนื่องจากเป็นการฉีดยา อาจมีรอยช้ำหรือบวมชั่วคราว
✔ ในกรณีใช้ วีโอเลต กรุณาหลีกเลี่ยงการรับประทานยาแก้อักเสบเป็นเวลา 1 สัปดาห์
03. ฉีดสลายไขมัน - ร่างกาย
✔อาจมีอาการแข็งเป็นก้อนหรือบวมบริเวณที่ฉีดประมาณ 1–2
สัปดาห์ แนะนำให้นวดบริเวณนั้นเบา ๆ
✔ หลังทำหัตถการ อาจมีอาการสั่น ใจสั่น หรือเวียนศีรษะชั่วคราว
หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน กรุณาติดต่อคลินิก
✔ อาจมีเลือดออกผิดปกติได้ แต่ปกติมักจะเป็นเพียงชั่วคราว
แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการครั้งถัดไป
✔ กรุณาหลีกเลี่ยงการอาบน้ำและออกกำลังกายในวันทำหัตถการ
และควรพักผ่อนให้เพียงพอ
✔ ควรดื่มน้ำให้มากๆ
ข้อควรระวังหลังทำทรีตเมนต์
✔ สามารถ ล้างหน้า อาบน้ำ
และแต่งหน้าได้ตั้งแต่วันถัดไปหลังจากทำหัตถการ
✔ หลังทำหัตถการควรหลีกเลี่ยงการทำ Peeling, เข้าซาวน่า,
ห้องอบไอน้ำ, แช่น้ำร้อน, ว่ายน้ำ และการออกกำลังกายหนัก
เป็นเวลา 1 สัปดาห์
✔ แนะนำให้เริ่มทาครีมกันแดดตั้งแต่วันถัดไปหลังทำหัตถการ
✔ อาการผิวแดงจะค่อย ๆ หายภายในไม่กี่วัน
✔ หลังการทำเลเซอร์ ผิวมักจะแห้งง่าย
แนะนำให้ทามอยเจอไรส์เซอร์เป็นประจำ
01. โทนิ่งเลเซอร์
✔ แนะนำให้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ 1–2 สัปดาห์
✔ อาจมีอาการแดงเล็กน้อย ร้อนผิว หรือเกิดสะเก็ดบาง
ๆ หลังทำหัตถการ
✔ หากเกิดสะเก็ด ควรปล่อยให้หลุดลอกเองตามธรรมชาติ
ห้ามแกะหรือเกา
✔ เนื่องจากผิวอาจไวต่อการระคายเคือง
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol)
หรือไวท์เทนนิ่งในช่วงนี้
02. เนโอบิมเลเซอร์
✔ เนื่องจากเลเซอร์มีการกระทบต่อต่อมไขมัน
อาจทำให้เกิดสิวผดหรือสิวเม็ดเล็กชั่วคราว
กรุณาอย่าบีบหรือแกะด้วยมือ
และควรดูแลผิวด้วยการทามอยเจอไรเซอร์เป็นประจำ
03. โพเทนซ่า
✔ หลังทำหัตถการ อาจเกิดอาการผิวหนังอักเสบหรือรูขุมขนอักเสบได้ในบางกรณี
แต่โดยทั่วไปจะดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
04. โพเทนซ่า แอคเน่
✔ ทั้งก่อนและหลังการทำหัตถการ
ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ที่มีความร้อนหรือก่อให้เกิดการระคายเคือง
เช่น Radio Frequency (RF) หรือ Fraxel เป็นการชั่วคราว
05. พิโค่แฟร็คเซล
✔ หลังทำหัตถการ อาจมีอาการหน้าแดงประมาณ 1–2 สัปดาห์ได้
✔ อาจเกิดจุดเลือดออกเล็ก ๆ ใต้ผิว
(คล้ายจุดแดงเล็ก ๆ บนใบหน้า) ซึ่งเป็นอาการปกติ
โดยทั่วไปสามารถปกปิดได้ด้วยครีมกันแดดหรือบีบีครีม
และจะค่อย ๆ หายภายใน 2–3 วัน
✔ หากมีอาการพุพอง หรือรู้สึกแสบผิวอย่างต่อเนื่อง
กรุณาติดต่อคลินิกเพื่อตรวจเช็กอาการเพิ่มเติม
06. กำจัดขน
✔ ขนเส้นสั้น ๆ หลังการเลเซอร์จะค่อย ๆ
หลุดร่วงเองตามธรรมชาติภายใน 1–2 สัปดาห์
✔ อาจมีอาการคันหรืออักเสบเล็กน้อยภายใน 1–3
วันแรก การประคบเย็นจะช่วยบรรเทาอาการได้
✔ อาจพบรูขุมขนอักเสบ, พุพอง หรือสะเก็ดในบางกรณี
✔ แนะนำให้โกนขนก่อนเข้ารับบริการประมาณ 1–2 วัน
✔ แนะนำให้ทำเลเซอร์ในรอบทุก ๆ 1
เดือนเพื่อผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง
✔ หลีกเลี่ยงการแว็กซ์, อาบแดด (Tanning),
หรือการถอนขนในช่วงที่ทำเลเซอร์อยู่
✔ ครีมสเตียรอยด์ที่ทางคลินิกให้ไป
ไม่ควรทาต่อเนื่องนานหรือใช้ในปริมาณมาก
ให้ทาบาง ๆ เฉพาะบริเวณที่มีอาการในช่วงเย็น
และไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 3 วัน
07. กำจัดไฝ
✔ หลังการกำจัดไฝหรือกระ กรุณาแปะแผ่นดูโอเดิร์ม (DuoDERM)
ให้ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์
✔ หากมีของเหลวสีเหลืองสะสมอยู่ภายในแผ่น
ให้เปลี่ยนเป็นแผ่นดูโอเดิร์มใหม่
✔ ไฝหรือกระบางจุดอาจกลับมาได้อีก
ขึ้นอยู่กับความลึกและลักษณะของจุดนั้น ๆ
✔ หากมีการกลับมาอีก แนะนำให้รออย่างน้อย 1
เดือนก่อนเข้ารับการรักษาซ้ำ
✔ ควรระวังไม่ให้บริเวณที่ทำหัตถการสัมผัสน้ำ
(สามารถล้างหน้าได้ขณะยังแปะแผ่นดูโอเดิร์มอยู่)
ข้อควรระวังหลังทำทรีตเมนต์
✔ สามารถ ล้างหน้า อาบน้ำ
และแต่งหน้าได้ตั้งแต่วันถัดไปหลังจากทำหัตถการ
✔ หลังทำหัตถการควรหลีกเลี่ยงการทำ Peeling, เข้าซาวน่า,
ห้องอบไอน้ำ, แช่น้ำร้อน, ว่ายน้ำ
และการออกกำลังกายหนัก เป็นเวลา 1 สัปดาห์
✔ แนะนำให้เริ่มทาครีมกันแดดตั้งแต่วันถัดไปหลังทำหัตถการ
✔ หลังการทำเลเซอร์ ผิวมักจะแห้งง่าย
แนะนำให้ทามอยเจอไรส์เซอร์เป็นประจำ
✔ ผลลัพธ์ของหัตถการจะค่อยๆเริ่มต้นทันทีหลังทำ
และจะเห็นผลลัพธ์ของการกระตุ้นคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวชัดเจนที่สุดในช่วง 2–3
สัปดาห์หลังทำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3
ครั้ง โดยเว้นระยะห่างกัน 2–3 สัปดาห์
(ในกรณีของ Ultherapy หรือ Thermage แนะนำให้ทำห่างกันทุก 6 เดือน ถึง 1 ปี)
01. อินโหมด FX
✔ อาจเกิดรอยช้ำหลังทำหัตถการ ซึ่งโดยทั่วไปจะจางหายไปภายใน 1–2 สัปดาห์
กรุณาทาครีมลดรอยช้ำอย่างสม่ำเสมอ
02. อินโหมด FORMA
✔ เพื่อช่วยให้ความร้อนภายในผิวคงอยู่และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนะนำให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเล็กน้อย
(ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป) เป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังทำหัตถการ
03. เทอมาจ/วอลนิวเมอร์/ไททาเนี่ยม
✔ ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือการใช้มาสก์หน้าเป็นเวลาประมาณ 1
สัปดาห์ (แนะนำให้ใช้น้ำอุ่นล้างหน้าแทน)
✔ หากตั้งครรภ์ หรือมีเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
อาจไม่สามารถเข้ารับบริการหัตถการได้
✔ ก่อนทำหัตถการ กรุณาถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะ
เช่น สร้อยคอ แหวน นาฬิกา กำไล ออกให้หมด
✔ หลังทำหัตถการ อาจมีอาการผิวแดงชั่วคราวได้
04. อัลเทอร่า/ชูริ้งค์
✔ อาการปวดตุบ ๆ บวม ช้ำ หรือผิวแดง อาจเกิดขึ้นได้ในช่วง 7–10
วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากอาการรุนแรง
อาจมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต่อเนื่องได้ถึง 2–4 สัปดาห์
05. แอร์เจ็ท
✔ สามารถสระผมได้ตั้งแต่วันถัดไปหลังทำหัตถการ
✔ กรุณาหลีกเลี่ยงการดัดผมหรือทำสีผมเป็นเวลา 1 สัปดาห์
06. ออนด้า
✔ ภายใน 1 สัปดาห์หลังทำหัตถการ
อาจยังรู้สึกร้อนหรือมีผิวแดงหลงเหลืออยู่
✔ ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือการใช้มาสก์หน้าเป็นเวลา
1 สัปดาห์ (แนะนำให้ใช้น้ำอุ่น)
ข้อควรระวังหลังทำทรีตเมนต์
✔ สามารถ ล้างหน้า อาบน้ำ
และแต่งหน้าได้ตั้งแต่วันถัดไปหลังจากทำหัตถการ
✔ หลังทำหัตถการควรหลีกเลี่ยงการทำ Peeling, เข้าซาวน่า,
ห้องอบไอน้ำ, แช่น้ำร้อน, ว่ายน้ำ และการออกกำลังกายหนัก เป็นเวลา 1 สัปดาห์
✔ แนะนำให้เริ่มทาครีมกันแดดตั้งแต่วันถัดไปหลังทำหัตถการ
✔ อาจมีรอยช้ำ บวม เจ็บ หรือรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในช่วงประมาณ 1
สัปดาห์แรก และอาการจะดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์ การประคบเย็นภายใน 48
ชั่วโมงแรกหลังทำหัตถการสามารถช่วยบรรเทาอาการได้
✔ หากมีอาการปวดมาก สีผิวเปลี่ยนแปลง มีตุ่มน้ำขึ้นบริเวณที่ฉีด
คัน หรือรู้สึกร้อนที่ผิวอย่างต่อเนื่อง กรุณาติดต่อคลินิกทันที
✔ ในวันทำหัตถการ อาจมีอาการบวมทำให้ผิวดูไม่เรียบ
แต่จะค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติภายในไม่กี่วัน
01.ฟิลเลอร์
✔ กรุณางดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่เป็นเวลา 1 เดือน
✔ ควรหลีกเลี่ยงการนวดบริเวณที่ทำหัตถการเป็นเวลา 2–4
สัปดาห์ เพราะแรงกดจากภายนอกอาจทำให้รูปทรงเปลี่ยนแปลงได้
✔ หลีกเลี่ยงการสวมหมวก, นอนคว่ำหรือนอนตะแคง, การใส่แว่นตา,
การทำอัลตราซาวด์ & คลื่นวิทยุ (RF), และการนวดหน้าแบบกดจุด
เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน
✔ หากทำฟิลเลอร์ริมฝีปาก ควรงดใช้หลอดดูดน้ำ
และงดรับประทานอาหารที่มีรสจัดหรือก่อให้เกิดการระคายเคือง เป็นเวลา 1 สัปดาห์
✔ สามารถทาลิปสติกหรือผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันได้หลังจากผ่านไปประมาณ 2–3 ชั่วโมง
02.จูวีลุค วอลลุ่ม / เรเดียส
✔ เพื่อป้องกันการแข็งตัวและเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยา
แนะนำให้นวดเบา ๆ ด้วยมือที่อุ่นบริเวณรอบจุดที่ทำหัตถการ วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 3 วัน
✔ ผลลัพธ์ของหัตถการจะค่อย ๆ ปรากฏ และอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
โดยทั่วไปแนะนำให้ทำหัตถการประมาณ 3–5 ครั้ง
เพื่อให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้เพียงพอ
ข้อควรระวังหลังทำทรีตเมนต์
✔ หลังทำหัตถการอาจมีอาการบวม ปวด
หรือช้ำ ซึ่งอาจคงอยู่ได้นานตั้งแต่ 1 ถึง 4 สัปดาห์
✔ ภายใน 1 เดือน ควรหลีกเลี่ยงการนวดใบหน้า การทำฟัน
หรือการอ้าปากกว้าง เพราะอาจทำให้ไหมขาดหรือเคลื่อนตำแหน่ง
✔ แนะนำให้ประคบเย็นภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังทำ
✔ หลีกเลี่ยงการกดหรือถูใบหน้าโดยตรง
เช่น นอนคว่ำ หรือนวดหน้า เป็นเวลา 2–4 สัปดาห์
✔ ในบางกรณี ไหมอาจโผล่ออกมานอกผิวหนัง
ขึ้นอยู่กับสภาพผิว หากเกิดกรณีนี้
กรุณาอย่าใช้มือสัมผัส และรีบมาติดต่อคลินิก
✔ หากทำการร้อยไหมบริเวณจมูก
ควรหลีกเลี่ยงการสวมแว่นตาหรือแว่นกันแดดชั่วคราว
ข้อควรระวังหลังทำทรีตเมนต์
✔ กรุณางดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6
ชั่วโมงก่อนเข้ารับการทำหัตถการ
✔ หากมีโรคประจำตัว หรือรับประทานยาใด ๆ
อยู่ กรุณาแจ้งให้ทางคลินิกรับทราบล่วงหน้า
✔ ในวันเข้ารับการทำหัตถการ ไม่สามารถขับรถได้เอง
กรุณาเดินทางด้วยรถสาธารณะ หรือมากับผู้ดูแล
01. ข้อควรระวังหลังทำทรีตเมนต์
✔ การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงในช่วง 1
สัปดาห์ก่อนและหลังการทำหัตถการ เป็นสิ่งสำคัญ
✔ กรุณาระมัดระวังการใช้ ยาแก้อักเสบหรือยาสเตียรอยด์ ในช่วง 2–3
สัปดาห์ก่อนและหลังการทำหัตถการ
02. สเต็มเซลล์สกินบูสเตอร์
✔ แนะนำให้ล้างหน้า อาบน้ำ และแต่งหน้า
ตั้งแต่วันถัดไปหลังทำหัตถการจะดีที่สุด
✔ ภายใน 1 สัปดาห์ ควรงดการผลัดเซลล์ผิว ซาวน่า
อบตัว แช่น้ำร้อน ว่ายน้ำ ออกกำลังกายหนัก การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
✔ แนะนำให้เริ่มใช้ครีมกันแดดตั้งแต่ วันถัดไปหลังทำหัตถการ
✔ อาจมีอาการนูน บวม ปวด หรือช้ำได้ภายใน 2–3
วันแรก และอาการอาจคงอยู่ประมาณ 1–2 สัปดาห์
✔ หลังทำหัตถการ ควรหลีกเลี่ยงเลเซอร์ชนิดให้ความร้อนสูง เป็นเวลา 4 สัปดาห์
03. ดริปสเต็มเซลล์
✔ ห้ามใช้แผ่นแปะแก้ปวด (เช่น พลาสเตอร์ร้อน / แผ่นบรรเทาอาการปวด)
เป็นเวลา 2–3 สัปดาห์หลังทำหัตถการ
✔ หลังทำหัตถการ อาจมีอาการคล้ายเป็นไข้หรือปวดเมื่อยเนื่องจากการตอบสนองของร่างกาย
ซึ่งถือเป็นอาการปกติ ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละบุคคล
แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ อาการจะดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์
(สามารถรับประทานพาราเซตามอล เช่น ไทลินอล ได้)
01. กดสิว / ฉีดสิวอักเสบ
✔ แม้จะได้รับการฉีดสิวแล้ว
แต่อาการอักเสบหรือสิวยังอาจกลับมาเป็นซ้ำได้ในบางกรณี
✔ หลังจากฉีดสิวอักเสบ อาจเกิดรอยบุ๋มได้ในบางกรณี ซึ่งพบได้น้อย แต่จะค่อย
ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์
✔ ในกรณีที่สิวอักเสบเกิดขึ้นเป็นเวลานาน
อาจหลีกเลี่ยงการเกิดรอยแผลเป็นได้ยาก
02. พิลลิ่ง
(Aqua Peel / Lhala Fill / Platinum Pla Peel / Black Peel)
✔ อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง ใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
✔ หลังทำหัตถการสามารถแต่งหน้าและล้างหน้าได้ตามปกติ
✔ อาจมีอาการแดงหรือระคายเคืองเล็กน้อยหลังทำ
แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
✔ ควรดูแลผิวให้ชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
และทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อต้องออกไปข้างนอก
✔ เมื่อเกิดอาการผิวลอกหลังทำหัตถการ
ห้ามแกะหรือลอกเอง ควรปล่อยให้หลุดลอกตามธรรมชาติ
03. ทรีตเม้นท์คลื่นความถี่สูงt
✔ อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง ใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
✔ หลังทำหัตถการสามารถแต่งหน้าและล้างหน้าได้ตามปกติ
✔ อาจมีอาการแดงหรือระคายเคืองเล็กน้อยหลังทำ แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
✔ หลังทำทรีตเมนต์ ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเป็นเวลา 2–3 วัน